วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

ค่า PR และค่า Index ของเว็บที่มีค่าสูงและต่ำแตกต่างกันไป

เว็บไซต์ที่มีค่า PR ต่ำ เท่ากับ 7
และค่า Index เท่ากับ 17,200

http://www.asus.com/
    บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พีดีเอโฟน และอีอีอี พีซี อัสซุสเป็นบริษัทชั้นนำในยุคดิจิตอลใหม่ ด้วยพนักงานและทีมงาน เพื่อพัฒนาวิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับเวิลด์คลาส มากกว่า 8,000 คน และผลประกอบการในปี 2550 กว่า 6.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ อัสซุสได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารบิสิเนสวีค ให้เป็น1 ใน 100 บริษัทไอทีระดับโลก เป็นเวลา 11 ปีติดต่อกัน และจากการจัดอันดับของวอลล์ สตรีท เจอนัล ได้จัดให้อัสซุสเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุดเป็นอันดับ 1 ในไต้หวัน





เว็บค่า Pr สูงที่สุด ค่าเท่ากับ 4

และค่า Index เท่ากับ 651

http://www.ajthai.com/th/

       บริษัท AJ ประเทศไทย (จำกัด) มีทั้งขายหน้าร้านและบนเว็บไซต์ด้วยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม ได้แก่ แผ่นฟิล์ม BOPP แผ่นฟิล์ม BOPET แผ่นฟิล์ม BOPA (Nylon) และแผ่นฟิล์ม  METALLIZED ซึ่งนำไปใช้ในการแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน เช่น ซองบรรจุอาหารและขนมขบเคี้ยว  ซองบรรจุสิ่งของ เช่น เสื้อผ้า แชมพู ดอกไม้ ฯลฯ กระดาษห่อของขวัญ เคลือบกระดาษ เคลือบผิวไม้เฟอร์นิเจอร์  ฉนวนป้องกันความร้อนภายในอาคาร ฉนวนไฟฟ้า อุตสาหกรรมชนิดน้ำ (Liquid) และอาหารแช่แข็ง เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ


วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การบรรยายเรื่อง "Online Business with Google"


สรุปการบรรยายเรื่อง "Online Business with Google"
ในโลกปัจจุบันคนไทยเป็นคนค้นหาข้อมูลเก่งมากในการค้นหาบริการหรือผู้บริโภค ผู้ประกอบการจะเพียง 1 บริการออนไลน์เท่านั้น ฉะนั้น
Zo Lo Mo คือ คำที่นักการตลาดมาเก็ตติ้ง พูดถึงกัน
Zo คือ cial
Lo คือแผนที่
Mo คือ โฆษณามาพร้อมกับ ดิจิตัลมาเก็ตติ้ง
เทรนด์ที่นักการตลาดใช้กันคือ ZMOT คือ ช่วงเวลาของกระบวนการคิดและกระบวนการที่ไปซื้อสินค้า ใช้แล้วบอกต่อแชร์ประสบการณ์  การที่เราจะอยู่บนโลกออนไลน์ได้นั้น ต้องอาศัย Zero moment of truth จะต้องเจอของการค้นหา 1.ต้องตัวตน
         2. ต้องถูกค้นพบ
Be found คือการถูกค้นหาเวลาที่เรามีตัวตนมี 2 ส่วน คือ Google จะให้คะแนนผู้ที่มีข้อมูลดียิ่งมีผู้ใช้มากเท่าไรเว็บไซต์นั้นจะมีคุณภาพ ถ้าจะติดอันดับต้องเข้า Google marketing too คือเครื่องมีสำหรับเว็บ matter ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ให้ติดต่อ Google web marketing too
การปรากฏตัวบนแผนที่ Google map search ซื้อสินค้า สามารถสมัครฟรีเข้าไปที่ map.Google.ch สามารถวางเว็บไซต์ใส่ในแผนที่ได้ข้อมูลต่างๆได้หมด
การที่เราจะใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นก็ทำได้เช่นกัน คือ Google + เราสามารถแชร์ข้อมูลหรือเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ของเราสามารถสนทนากับลูกค้าแบบเห็นหน้าได้ สามารถดึงข้อมูลที่ลูกค้าต้องการดูดึงมาดูพร้อมกันได้ คุยกับลูกค้าผ่านวีดีโอคือใช้ Google + แฮงเอาส์
การวัดผลของการตลาดเราจะใช้ดิจิตอลมาเก็ตติ้งในเวลาที่เราจะวัดผล Google analog  แบบเรียวทาม จะดูข้อมูลทุกประเภทในจีโอกราฟิก  สามารถดูได้ Face book Google  เป็นอย่างไร Google analog จะโชว์ในส่วนต่างๆของพวก แอนดรอยน์ ไอโฟน ต่างๆ เป็นต้น
ปัจจุบันแล้วคนไทยเราก็ใช้สมาทโฟนกันมาก ถ้าจะ search หาข้อมูลบนมือถือก็ต้องเจอสินค้าของเราด้วย เราสามารถ search สินค้าบนมือถือก็สามารถเห็นโฆษณาของเราได้ โมบายไซต์จัดเป็นดีไซต์ใหม่ที่สะดวกมากสำหรับ user
Google มีเครื่องมือให้ใช้คือ Google global  ถ้าคิดจะขายสินค้าประเทศอื่นๆ เลือกสินค้าที่เราต้องการขายในประเทศนั้นใน 10 ประเทศ เราจะรู้ได้ว่าตลาดไหนสนใจสินค้าของเราบ้างและตลาดไหนเหมาะสมที่สุดกับสินค้าของเรา

คำคัพท์ที่ได้จากการบรรยาย

1.การเข้าถึงเว็บ Mobile Site ได้ ซึ่งทาง Google จะใช้ชื่อเรียก Robot ที่จะคอยไต่ไปตามเว็บ Mobile Sites ต่างๆ ว่า “Googlebot-Mobile” ก็ให้เราทำการแก้ไขแล้วก็ยอมให้ไอ้เจ้า Robot ตัวนี้สามารถเข้าถึงเว็บ Mobile Site ของเราได้

2. AEC ย่อมาจาก ASEAN  Economic  Community หรือประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน เป็นเป้าหมายสำหรับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของสมาคมประชาชาติ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน (Association  of  Southeast  Asia n  Nations: ASE AN ) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ทั้งนี้ อาเซียน มีเป้าหมายที่จะให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจบรรลุผล

3.Go-Global คือซอร์ฟแวร์คลาวด์ ประกอบด้วยซอร์ฟแวร์สำหรับแม่ข่าย และซอร์ฟแวร์ลูกข่าย

4.โปรแกรม Google Engage นำเสนอการอบรมและการสนับสนุนที่คุณจำเป็นต้องใช้เพื่อช่วยให้ลูกค้าของคุณได้รับประโยชน์จาก Google AdWords และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google

5. increase ความหมาย แลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ สาระ เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ increase กับสนุก! ความรู้ แหล่งความรู้ของคนไทย เพื่อคนไทย และสังคมไทย

6. Stimulus เป็นช่วงเวลาที่ได้เห็นโฆษณาผ่านเข้ามา

7. FMOT หรือ First Moment of Truth เป็นคำที่ถูกนิยามไว้ ว่าเป็นชั่วขณะที่ผู้ซื้อมีปฏิสัมพันธ์กับหน้าร้านและเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจซื้อ

8. SMOT หรือ Second Moment of Truth เป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้ว และมีประสบการณ์ในการใช้งานสินค้าดังกล่าว เค้าเหล่านั้นอาจจะมาเขียนรีวิวแบ่งปันข้อมูลบนเว็บไซต์ก็เป็นได้

9.“Think with Google” เป็นหนึ่งในโครงการของ Google ที่จะนำเรื่องราวในแวดวงธุรกิจออนไลน์และเทรนด์ต่างๆ มาเผยแพร่ให้บุคคลภายนอกได้ศึกษากัน ไม่ว่าจะเป็นบทสัมภาษณ์ของผู้นำทางความคิด นำเสนอกรณีศึกษา หรือข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจเพื่อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการในการวางแผนธุรกิจ

10. Service ไม่ได้หมายถึงอะไรที่เด่นชัดอย่าง Promool.com Pantip.com แต่หมายถึงส่วนประกอบที่คนอื่นๆนำไปใช้ในการทำบริการที่กว้างกว่านี้ด้วย ตัวอย่างเช่น Microsoft Passport ที่ให้บริการตรวจสอบความเป็นตัวตนจริง (Authentication) ผ่านเว็บ ทำให้การบริการข่าวของ Bangkok Post ไม่ต้องตรวจสอบการเข้าสู่ระบบเอง แต่ยกให้ Passport เป็นตัวจัดการแทน หรืออย่าง Dynamic services whitepaper ของ Oracle ก็มีส่วนที่ให้บริการ แปลงค่าเงิน แปลภาษา การส่งของ กระบวนการเคลมสินค้า เป็นต้น ส่วนความหมายอย่างเป็นทางการของ Web Service ก็คงเป็นของ IBM
       11. Google friendly คือ นำเสนอหน้าเว็บแรกให้มีคุณภาพสูง หากหน้าเว็บของมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้า จะช่วยดึงดูดผู้เข้าชมจำนวนมาก และดึงดูดเว็บมาสเตอร์เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของเรา ในการสร้างประโยชน์เว็บไซต์ที่มีข้อมูลจะเขียนหน้าได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง อธิบายหัวข้อของเราได้ก่อนเสมอ เกี่ยวกับคำที่ผู้ใช้จะพิมพ์เพื่อค้นหาหน้าเว็บของเรา และรวมคำเหล่านั้นในเว็บไซต์เรา
       12. PageRank คืออัลกอริทึมที่ใช้การวิเคราะห์เว็บลิงก์ตามทฤษฎีเครือข่ายที่ใช้เป็นพื้น ฐานในตัวเสิร์ชเอนจินของกูเกิล โดยเพจแรงก์จะแสดงเป็นค่าตัวเลขบ่งบอกถึงความความสำคัญของข้อมูลในกลุ่มของ ชุดข้อมูล ตัวเลขของเพจแรงก์ของกูเกิลในปัจจุบันจะมีค่าระหว่าง 0 ถึง 10
13. Google AdWords คือ โฆษณาในรูปแบบ pay per click ข้อดี คือ เสียค่าใช้จ่ายตามจริง เมื่อผู้ใช้บริการค้นหาข้อมูลคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น และโฆษณาจะปรากฏให้ผู้ชมเห็นตามคีย์เวิร์ด (Keyword) หรือ กลุ่มคำที่คุณเลือกไว้ซึ่งเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

14. cocial media จะเป็นแทกที่ทำให้ผู้บริโภคนึกถึงเรา เพื่อให้พูดถึงเราในแง่ที่ดี

15. Google+ (Google Plus) คือโครงการของ Google ที่มีความพยายามมานานหลังจากมีการออกมายอมรับก่อนหน้านั้นว่า Google ขยับตัวช้าไปในเรื่องนี้แถมยังมีข้อเสนอพิเศษให้กับพนักงานที่สามารถคิดโครงการ Social Networks ให้ออกมาประสบความสำเร็จอีกด้วย

16. Hangouts คืออะไร
ที่อยู่อีเมลของคุณจะปรากฏแก่คนที่คุณแชทด้วย เมื่อคุณปรากฏในรายชื่อการแชทของคนอื่นใน Google+ เป็นไปได้ว่าคนนั้นอาจค้นพบที่อยู่อีเมลของคุณ แม้ว่าที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ปรากฏในรายชื่อการแชทใน Google+ แต่ละปรากฏในรายชื่อการแชทของผลิตภัณฑ์อื่นของ Google

17. SCG eco value คืออะไร
จากความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณค่าให้สังคม เอสซีจีจึงให้ความสำคัญกับการวิจัย พัฒนาสินค้า และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคไปพร้อมกับการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเป็นองค์กรไทยรายแรกที่กำหนดฉลากสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมประเภทการรับรองตนเอง ภายใต้ฉลากSCG eco value

18. solomo คือ โน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่โดดเด่นที่สุดผลที่ได้คือ 3 อย่างคือ Social, Local, Mobile ที่ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันนั้น นิยมใช้กันมาก และเป็นพฤติกรรมที่นักการตลาดออนไลน์ต้องหันมาวางกลยุทธ์เพื่อ SoLoMo กันอย่างเอาจริงเอาจัง ทาง Nielsen ได้นำเสนอ infographic เกี่ยวกับเทรนด์พฤติกรรมทั้ง 3 นี้ออกมาให้ได้เห็นกัน Pin

19. CMOS คืออะไร  CMOS (ซีมอส) ย่อมาจาก “Complementary Metal Oxide Semiconductor” เป็นชิปไอซีที่ใช้เก็บข้อมูลที่เป็นค่าเฉพาะของแต่ละระบบ เพื่อให้ Bios (ไบออส) นำไปใช้ในการบู๊ตระบบ ข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่ใน CMOS เช่น เวลา และวันที่ของระบบ ค่าของฮาร์ดดิสก์ และไดรว์ซีดี/ดีวีดี, การปรับค่าความเร็วในการอ่านเขียนของแรม เป็นต้น เป็นชิปสารกึ่งตัวนำที่ถูกติดตั้งแบบออนบอร์ดมากับเมนบอร์ดเลย เราจะมองไม่เห็นตัวชิปเพราะมันถูกผนวกเข้ากับชิปเซ็ต ชิป CMOS เป็นหน่วยความจำที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้กินไฟน้อย และทำงานได้เร็ว

20. Commuting คือการต้องเดินทางไปเพื่อทำภารกิจบางอย่าง เป็นการเดินทางที่อาจกระทำกันบ่อยๆ หรือทุกวัน  เช่นทุกเช้าวันทำงาน ต้องเดินทางไปทำงาน หรือไปศึกษาเล่าเรียน ดังนี้เรียกว่า commuting


วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ให้นักศึกษาวิเคราะห์ประเด็นต่อไปนี้ แล้วแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามจากประเด็นปัญหาต่อไปนี้

             
1. สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ตอบ
 สาเหตุที่ร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทยไม่ประสบความสำเร็จนิสัยคนไทยชอบเห็นของก่อนซื้อและการเดินทางก็สะดวกแต่ในทางกับกันต่างประเทศจะซื้อสินค้าออนไลน์จะสะดวกกว่าการเดินทางไปซื้อเอง การชำระเงินก็สะดวกจ่ายเงินออนไลน์ได้เลยจึงทำให้มีสาเหตุต่อไปนี้
1. ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยมีมากกว่า 1 ร้าน มีทั้ง ห้างโลตัส บิ๊กซี คาฟูหรือ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอยากจะได้อะไรก็เดินทางไปดูได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น การจะให้เว็บไซต์ของเราซื้อขายผ่าน Internet ได้ จึงต้องมีความแตกต่างกับการซื้อขาย ในห้างร้านทั่วไป
2. การชำระเงินออนไลน์ จะเห็นได้ว่า ธนาคารต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการชำระเงินออนไลน์ และมีการจัดสัมมนาภายในงานอีกด้วย ทำให้เห็นได้ว่า ธนาคารต่าง ๆ เล็งเห็นถึงความสำคัญกับ E-commerce ในประเทศไทยที่มีโอกาสเติบโตได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ผู้ประกอบธุรกิจหลายหมื่นคน ให้ความสนใจมาก แต่บุคคลทั่วไป ที่ไม่มีความชำนาญในการใช้อินเทอร์เน็ต การจะให้หันมาใช้การซื้อขาย ผ่านเว็บไซต์ก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่ ดังนั้นต้องให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปมากขึ้น
3. การทำประชาสัมพันธ์ก็เหมือนการเปิดร้านค้าถ้าไม่มีการโปรโมทให้คนรู้จักถ้าไม่บอกหรือประชาสัมพันธ์ให้คนรู้เว็บไซต์ก็จะไม่มีคนรู้จักการทำงานบนเว็บไซต์ต้องคำนึงถึงผู้บริโภคหรือผู้ใช้งานมากกว่าเว็บไซต์ต้องใช้งานง่ายเข้าถึงได้เร็ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยใจปัจจุบันบนโลกอินเตอร์เน็ตคือ Search Engine หากทำให้สินค้าหรือบริการติดอันดับต้นๆ ก็จะโอกาสประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจบนโลกอินเตอร์เน็ตและมีเพียงแค่ไม่มีรายที่จะทำให้อยู่ในอันดับแรกของหน้า Google แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้จะติดอันดับก็ไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะขายได้การทำการตลาดผ่านเว็บ หรือ Internet Marketing นั้น ในต่างประเทศมีแผนกนี้โดยเฉพาะ แต่ในประเทศไทย ยังไม่เห็นถึงความสำคัญเท่าที่ควร แต่ในอนาคต อันใกล้ จะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากใครเริ่มต้นทำ Internet Marketing ก่อน มีลู่ทางมากกว่าผู้ที่ทำทีหลังอยู่แล้ว
4. เว็บไซต์ E-commerce เกือบทุกเว็บ จะขายเพียงอย่างเดียว ยัดเยียดให้ลูกค้า เข้ามาซื้อของในเว็บไซต์  เว็บไซต์ที่ดีไม่ได้เพียงแค่จะเอาเงินจากลูกค้าเพียงอย่างเดียว เราต้องให้อะไรกับลูกค้าก่อน ลูกค้าก็จะกลับเข้ามาซื้อสินค้าของเราเองในภายหลัง ซึ่งในส่วนนี้ อาจจะเป็น เรื่องของ บทความภายในเว็บ หากเว็บไซต์ ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ถ้าลูกค้าประสบปัญหา ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อในดี เปรียบเทียบ สินค้า อะไรดี แทนที่ลูกค้าจะเข้าไปดู ถามข้อมูลหรือไปโพสต์ถามเพื่อนจากเว็บบอร์ดต่าง ๆ แต่ถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้อยู่ในเว็บไซต์ คนเข้ามาดูเว็บไซต์เรา ถึงวันนี้อาจจะไม่ใช่ลูกค้าเรา แต่เมื่อเขาต้องการซื้อสินค้าจริง ๆ เว็บที่เขาไปอ่าน หาข้อมูลบ่อย ๆ จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คนเหล่านี้เข้ามาซื้อสินค้านั่นเอง

5. เครื่องมือสื่อสารกับเจ้าของเว็บ ผู้ประกอบกิจการ E-commerce หลายคน มีเว็บเป็นของตัวเอง แต่อีเมล์ที่ใช้ กับเป็น ฟรีอีเมล์ อย่าง Hotmail, Google, Yahoo จะเป็นอย่างไรถ้าลูกค้าติดต่อกับคุณแต่ อีเมล์ที่ได้รับไปไม่ตรงกับข้อมูล ลูกค้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่า อีเมล์ หรือ ที่อยู่ในการติดต่อนั้นคือ เจ้าของเว็บไซต์แน่ ๆ

 2.    ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง
ตอบ
2.1 กล้าตัดสินใจคือ  ค้นคว้าหาข้อมูล สร้างจินตนาการ กลั่นกลองความคิด หาช่องทางเมื่อมีโอกาส เพราะธุรกิจนี้ใช้เงินน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อสินค้า สามารถขายให้คนทั่วโลกได้ทั้งปลีกและส่ง
2.2 สร้างมุมมองของความไม่เชื่อมั่นของคนไทย ในการใช้บริการ E-commerce ซึ่งผู้ดำเนินต้องมีแนวทางในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการใช้บริการ E-commerce ให้เชื่อในความปลอดภัย เห็นถึงข้อดีต่างๆ ที่ได้จากการใช้งาน สร้างตัวจูงใจในการใช้บริการ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การที่ได้สินค้าในราคาที่ถูกกว่าและมีคุณภาพ อันเนื่องมาจากการติดต่อโดยตรงไม่ผ่านคนกลางใดๆ
2.3 ช่องทางที่อำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ลูกค้า การทำธุรกรรมต่างๆจะทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อถือได้นั้นต้องอาศัยการออกแบบที่รัดกุมและน่าเชื่อถือที่สำคัญต้องอำนวยความสะดวกด้วยแก่ผู้ใช้บริการให้มากที่สุดตลอดจนถึงการมองช่องทางที่หลากหลายที่ให้ผู้บริโภคทำการชำระเงินได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
2.4 บริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพทั้งด้านการลงทุนต่างๆ การติดต่อผสานงานที่ใช้ในการดำเนินงาน เช่นด้านการขนส่ง ด้านการชำระเงิน การให้บริการลูกค้า อันเป็นการสร้างฐานความเชื่อมันทางการตลาดเป็นสำคัญ
2.5 สร้างสัมพันธ์ที่ดีที่มีส่วนช่วยระหว่างกัน ซึ่งการทำธุรกิจ E-commerce เพียงคนเดียวคงจะสำเร็จได้ยากการสร้างสัมพันที่ดีในการค้าเป็นส่วนที่สำคัญในการตลาดและให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคตลอดจนการสร้างโครงข่ายความช่วยเหลือระหว่างกันเช่น การแลกแบรนเนอร์ การฝากลิงค์ ซึ่งเป็นหลักการในการสร้างเส้นทางในการเข้าถึงระหว่างกันและยังเป็นส่วนช่วยในการส่งเสริมการตลาดทำให้ผู้บริโภคมองหาสินค้าได้อีกทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นศูนย์กลางที่ผู้บริโภคเลือกเข้ามาใช้บริการ อันจะมีผลที่ได้หลายประการนอกจากการขายสินค้า




SO LO MO และ ZMOT


          So Lo Mo ย่อมาจากคำว่า Social Media Location Mobile มีความหมายโดยรวม คือ เป็นการประยุกต์ใช้ระบบการเชื่อมต่อสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่มาใช้ในการสนทนาแบ่งปัน ความคิดเห็นข้อมูล เรื่องสินค้าและบริการผ่านทางระบบสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการระหว่างกันในการเลือกสินค้าและบริการ โดยผ่านทางระบบการสื่อสารเคลื่อนที่ ซึ่งหลักๆก็คือ สมาร์ทโฟน ซึ่งผู้บริโภคจะสนทนาแบ่งปัน ข้อมูลประสบการณ์ระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ สถานที่ตั้ง ตลอดจนข้อคิดเห็นและข้อเปรียบเทียบต่างๆ โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะผ่านการสนธนาบนโลกสังคมออนไลน์
So ย่อมาจากคำว่า Social แปลตรงตัว คือ สังคม แต่ไม่ใช่สังคมธรรมดา แต่มันเป็นสังคมออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันที่โด่งดังคือ Facebook , Twitter
Lo ย่อมาจากคำว่า Location แปลว่า สถานที่ สถานที่  หมายถึง Google Map ตอนนี้หลายเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ บริษัท หรือแม้แต่เว็บไซต์ส่วนตัวได้มีการใช้งานA pplication ที่ชื่อว่า Google Map เข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจการเลือกซื้อสินค้าหรือทัวร์ต่าง ๆ เช่นการปักหมุดร้านค้า หรือ สถานที่ท่องเที่ยวของเจ้าของเว็บไซต์หรือทัวร์ต่าง ๆ
Mo ย่อมาจากคำว่า Mobile ไม่ใช่แค่โทรศัพท์มือถือธรรมดา แต่เป็น SmartPhone , iPhone , Tablet ต่าง ๆ ที่ได้ถูกพัฒนา Application บนมือถือเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดออนไลน์ในอนาคต ถ้าสังเกตุดีดี บนรถไฟฟ้าหรือตามสถานที่ต่างๆ จะมีคนใช้โทรศัพท์กันมากขึ้นไม่ใช่แค่ใช้พูดคุยกันอย่างเดียวโทรศัพท์ แต่เป็นในลักษณะเลื่อนหน้าจอเพื่อค้นหาข้อมูล อัพเดทสถานะหรือแม้แต่พูดคุยกับเพื่อนออนไลน์
ตอนนี้เราจะเห็นได้ว่าบนโลกออนไลน์มีการเติบโตมากขึ้นมีความสะดวกสบายในหลายด้านเกี่ยวกับการสื่อสารต่างๆในยุคปัจจุบันทำให้เราต้องก้าวทันโลกออนไลน์ต่างทันเหตุการณ์ในโลก Network

 





ZMOT หรือ Zero Moment of Truth คือ การที่ลูกค้าได้รู้จักและมีความสนใจในสินค้าก่อนที่จะเข้าไปดูสินค้าในร้านค้าจริงๆ ซึ่งลูกค้าอาจรู้จักได้จากการเข้าชมเว็บไซต์ และ Social Media ต่างๆ หรือแม้แต่การสแกน Barcode จากโทรศัพท์แล้วเปิดอ่าน ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิด ZMOT คือ การเติบโตของอินเทอร์เน็ตและเครื่องมือที่ใช้เชื่อมต่ออย่าง สมาร์ทโฟน ที่มีการพัฒนาให้มีความสามารถมากขึ้น รวมถึงการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีการสื่อสารที่รวดเร็วมาก ทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาชมสินค้า รู้ที่จำหน่าย และสามารถสั่งซื้อผ่านทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมสมัยใหม่ได้ 



      ZMOT มีความเกี่ยวข้องกับการนำระบบ Electronic Business มาใช้ โดยการนำมาประยุกต์ใช้ในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่ที่มีความอิสระในการเข้าถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการตลาดให้ความสนใจในการนำสินค้ามานำเสนอขายที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างไร ZMOT นับว่ามีอิทธิพลต่อคนกลุ่มผู้บริโภคประเภทนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งนับวันก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่ง ZMOT จะมีประโยชน์กับ
แบรนด์ในแง่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป


สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการรับฟังการบรรยายเรื่อง "การทำธุรกิจและการตลาดในยุคดิจิทัล 3.0"


          Social media ไม่ใช่ว่าจะมีแต่การออนไลน์แบบไม่ออนไลน์ก็มี ถ้าพูดถึงการเปลี่ยนแปลงใน การตลาดการสื่อสารทางการต Social media ไม่ใช่ว่าจะมีแต่การออนไลน์แบบไม่ออนไลน์ก็มี ถ้าพูดถึงการเปลี่ยนแปลงใน การตลาดการสื่อสารทางการตลาดก็ต้องเปลี่ยนไปการเปลี่ยนแปลงในการสื่อสารเป็นตัวขับเคลื่อน ในการสร้างBrand ก็ไม่สามารถมีบทบาทในการสนทนากับลูกค้าได้ ถือว่าการทำการตลาดนั้นไม่ค่อยประสบความสำเร็จ การตลาดนั้นถือว่าล้มเหลว ถ้าจะสร้าง Brand ให้ประสบความสำเร็จจะต้องอาศัย Social มาช่วยในการสร้าง Social สามารถใช้ Brand ได้ 3 คำ คือ
1. Social
2. Dialogue
3. Share
พวกนี้มันจะอยู่ภายใต้คำว่า “ ปากต่อปาก ” มันจึงทำให้มีบทบาทในการตลาดมากขึ้นประชากรบนโลกจะมีความเป็นอิสระมากขึ้น
Media มี 4 ประเภท
1. OWNED   MEDIA คือ ผู้ประกอบการเป็นเจ้าของเป็นสื่อของเราเอง
2. PAID   MEDIA คือ สื่อที่ต้องมีการจ่ายผ่านสื่อ
3. EARNED MEDIA คือ ลูกค้าผู้บริโภคทั่วไปเป็นเจ้าของ
4. SOCIAL MEDIA   คือ สังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้เป็นผู้สื่อสารในเรื่องราวต่างๆผ่านเว็บไซต์

คำศัพท์ที่ได้จากการฟังคำบรรยายสรุปอย่างน้อย  20 คำ 

1. Credit คือการอ้างถึงเจ้าของ ภาพ เสียง หรือ ข้อมูล ต่างๆ
 2.Alway on & Control คือผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ออนไลน์ตลอดเวลา
3. Brand คือ ชื่อ ตรา ภาพลักษณ์ ของสินค้า หรือบริการของผู้ประกอบการ
4. Buzz marketing คือ กลยุทธ์ในการสร้างสินค้าหรือบริการให้เป็นที่รู้จักและเกิดความต้องการในลักษณะของ การบอกต่อแบบปากต่อปาก
5. Awarneness คือ การทำให้ผู้บริโภครู้จักกับแบรนด์ของผู้ประกอบการ
6 .Content curater คือ การเขียน รวบรวม และแบ่งปันบทความของบริษัทสู่ลูกค้าทางช่องทางการสื่อสาร จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณมีความรู้, ชอบแบ่งปัน และยังช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ
7. Change of marketing คือ การเปลี่ยนแปลงของการตลาด
8. Callaboration rules คือ เป็นการสร้างแบรนด์ที่ต้องอาศัย ความร่วมมือของผู้บริโภคทำการตลาด
9. Relatioship Marketing คือการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของผู้บริโภค
10. Commitment คือ การตอบกลับหลังจากการได้ทดลองให้ตัวสินค้าแล้ว
11. Change of costomer คือการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค
12. Social network คือสังคมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารผ่านทางระบบเครือข่าย
13. Owned media คือเป็นสื่อเว็บไซต์ที่เราเป็นเจ้าของเอง
14. Paid media คือสื่อที่เราต้องจ่ายเงินซื้อประเภท Branner, Sponser ship
15. Earned Media คือลูกค้าเป็นเจ้าของ โดยมีการพูดถึงธุรกิจกับลูกค้าด้วยกัน
16. Social Media คือเจ้าของธุรกิจเป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง
17. Publisher คือการกระจายข่าวด้วย Social ได้ง่ายอย่างรวดเร็วและในวงกว้าง
 18. share คือ การแบ่งปัน การบอกต่อ กันไปเรื่อยๆ
19. Viral manageting คือ เป็นรูปแบบทางการตลาด โดยลักษณะการกระจายข่าวสาร การทำตลาดแบบปากต่อปาก โดยใช้ สื่ออินเตอร์เน็ต หรือระบบเครือข่ายอื่นๆ
20. Reviewer คือนักวิจารณ์สะท้อนกลับถึงข้อมูลสินค้าและบริการให้กับธุรกิจ